วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556

ขนมหวานแบบไทยไทย ขนมหวานหม้อแกง

                                                                                    ขนมหวานหม้อแกง

ขนมหม้อแกง หรือ ขนมกุมภมาศ คือขนมที่ใช้ไข่ แป้ง และกะทิเป็นส่วนประกอบสำคัญ นำผสมกันในถาดตามสัดส่วน แล้วจึงนำไปอบจนหน้าของขนมหม้อแกงมีสีน้ำตาลทอง น่ารับประทาน ปัจจุบันมีการทำเผือก เม็ดบัว ถั่ว และหอมเจียว มาผสม และแต่งหน้าขนมหม้อแกง ทำให้ขนมหม้อแกงมีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* ถั่วเขียว 250 กรัม (เผือก, เม็ดบัว, อื่นๆ)
* น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
* หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
* น้ำตาลปี๊บ 250 กรัม
* เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
* ไข่เป็ด 3 ฟอง
* หอมแดงซอยละเอียด 3 ลูก
* ใบเตย 3 ใบ
 วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
1. นำหอมแดงไปเจียวในน้ำมันจนเหลืองและกรอบ (ระวังไหม้ ควรเจียวด้วยไฟอ่อนๆ )
2. นำถั่วเขียวเลาะเปลือกไปแช่ในน้ำและนำไปนึ่งจนสุก หรือถ้าใช้เผือกก็ปอกเปลือกและนำไปนึ่งจนสุก จากนั้นจึงนำเผือกไปยีให้เป็นชิ้นเล็กๆ
3. ในชามขนาดกลาง, ผสมไข่ น้ำตาลปี๊บและเกลือ แล้วขยำโดยใช้ใบเตยให้เข้ากันดี น้ำตาลละลายหมด จากนั้นจึงใส่หัวกะทิลงไป ขยำต่ออีกจนส่วนผสมเข้ากันดี แล้วจึงนำไปกรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อเอาสิ่งสกปรกออก
4. เอาถั่วหรือเผือกใส่ลงไปในส่วนผสมที่กรองแล้ว และใส่น้ำมันที่เหลือจากการเจียวหอมแดง (ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี
5. นำส่วนผสมที่ได้ไปกวนด้วยไฟร้อนปานกลางในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเทฟลอนก็ได้) กวนจนส่วนผสมเริ่มข้นก็พอ ถ้ากวนมากเมื่อนำไปอบจะ ไม่น่าทานเพราะจะแตกมัน ที่เรานำมากวนก็เพื่อป้องกันไม่ให้ส่วนผสมแยกชั้นเมื่อนำไปอบเนื่องจากไข่ กับกะทิ ไม่เข้ากันดี
6. นำส่วนผสมที่กวนแล้วไปอบ โดยใส่ถาดหรือแบบที่ต้องการ ใช้ความร้อน 180 องศาเซลเซียส (360 องศาฟาเรนไฮต์) อบประมาณ 30 - 40 นาที จากนั้นจึงนำหอมเจียวไปโรยหน้าและอบต่ออีกประมาณ 5 นาที
7. ถ้าอบโดยใส่ถาดไว้ เวลาเสริฟก็ตัดแบ่งเป็นชิ้นขนาดตามความเหมาะสม ถ้าอบโดยใส่แบบอื่นๆไว้ ถ้าขนาดแบบไม่ใหญ่มาก อาจเสริฟได้พร้อมแบบทันที

อ้างอิง

ขนมหวานแบบไทยไทย ขนมหวานขนมชั้น

                                                         ขนมชั้น

ส่วนผสม
             หัวกะทิ 4 ถ้วย
             น้ำตาลทราย 3 ถ้วย
             น้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วย
              แป้งถั่วเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
              แป้งท้าวยายม่อม 1 ถ้วย
              แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
              แป้งมัน 2 ถ้วย
              ใบเตย 10 ใบ คั้นน้ำข้น ๆ
วิธีทำ
1. เชื่อมน้ำเชื่อมโดยใช้น้ำ 1 ถ้วย น้ำตาลทราย 3 ถ้วย
2. ผสมแป้งทั้ง 4 ชนิด เข้าด้วยกัน แล้วนวดกับกะทิ โดยค่อย ๆ ใส่กะทิทีละน้อย ๆ นวดนาน ๆ จนกะทิหมด แล้วใส่น้ำเชื่อมคนให้เข้ากัน พอให้แป้งติดหลังมือนิดหน่อย
3. กรองแป้งทั้งหมด แล้วแบ่งแป้งครึ่งหนึ่งเป็นสีขาว อีกครึ่งหนึ่งใส่ใบเตยหรือสีตามชอบ
4. นำถาดไปนึ่งแล้วทาน้ำมันให้ทั่ว ใส่แป้งสีขาวประมาณ 1/2 ถ้วย แล้วนึ่งให้สุกประมาณ 5 นาที ชั้นที่ 2 ใส่สีเขียว แล้วนึ่งอีกประมาณ 5 นาที ทำเช่นนี้ไปจนหมดแป้ง แล้วให้ชั้นสุดท้ายเป็นสีเข้มกว่าชั้นอื่น ๆ เมื่อสุกยกลงทิ้งให้เย็น แล้วตัดเป็นชิ้นตามต้องการ
อ้างอิง


ขนมหวานแบบไทยไทย ขนมหวานลูกชุบ

                                                        ลูกชุบ

วิธีการทำลูกชุบ
 อุปกรณ์
        - เครื่องปั่น กระทะทองเหลือง

    วัตถุดิบ
        1. ถั่วเขียวซีกเลาะเปลือกนึ่งสุก 150 ก. (แช่น้ำ 1 คืน)
        2. สีผสมอาหารสีแดง 1 ช้อนโต๊ะ
        3. สีผสมอาหารสีเขียว ช้อนโต๊ะ
        4. สีผสมอาหารสีส้ม ช้อนโต๊ะ
        5. น้ำตาลทราย 130 ก.
        6. ผงวุ้น 25 ก.
        7. น้ำเปล่า 1 ลิตร
        8. กะทิ 250 มล.
        9. กลิ่นมะลิ 1/2 ช้อนชา
        10. ใบของต้นแก้ว 1/2 ถ้วย
    * ส่วนผสมสำหรับ 40 ชิ้น
วิธีการทำ
    1. นำถั่วนิ่มสุก กะทิ น้ำตาลทราย ปั่นรวมกันจนละเอียด จากนั้นนำไปกวนในกระทะทองเหลืองด้วยไฟอ่อน จนส่วนผสมเริ่มแห้ง                      พักไว้ให้เย็น
    2. ปั้นให้เป็นรูปทรงผลไม้ตามชอบ จากนั้นทาสีให้สวยงาม พักไว้ 10 นาทีเพื่อให้สีแห้ง
    3. ผสมผงวุ้น น้ำเปล่า คนให้เข้ากัน พักไว้ 5 นาที ให้ผงวุ้นดูดซึมน้ำให้เต็มที่ เปิดไฟแรงให้น้ำเดือด จากนั้นลดไฟลงอ่อนๆ
    4. นำขนมลูกชุบที่ระบายสีแล้วลงชุบในน้ำวุ้นเคลือบให้ทั่วขนม พักไว้ 5 นาที จากนั้นชุบวุ้นใหม่อีกครั้ง (ชุบ 3 รอบ)
    5. เมื่อขนมลูกชุบเคลือบวุ้นทั่วดีแล้ว ตกแต่งให้สวยงามด้วยใบของต้นแก้ว เป็นอันเสร็จ
   ลูกชุบ : ขนมลูกชุบเป็นขนมไทยที่มีสีสันและหน้าตาน่ารับประทาน นิยมปั้นเป็นรูปทรงผลไม้ต่างๆ 

อ้างอิง
           https://sites.google.com

ขนมหวานแบบไทยไทย ขนมหวานทองหยอด

                                                                                               ทองหยอด
               
                      
ส่วนผสมขนมหวาน ทองหยอด 

ไข่เป็ด 10 ฟอง
น้ำตาลทราย 6 ถ้วย
น้ำลอยดอกไม้ 6 ถ้วย
แป้งทองหยอด 8 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำขนมหวาน ทองหยอด 
1.นำกระทะทองเหลืองใส่น้ำลอยดอกไม้สด ใส่น้ำตาล
เคี่ยวจนเดือด พอน้ำตาลละลายหมดแล้ว นำมากรอง
ด้วยผ้าขาวบาง แล้วแบ่งออกเป็น 3 ส่วน เท่าๆกัน
จากนั้นนำน้ำเชื่อม 2 ส่วน ตั้งไฟเคี่ยวให้เหนียว
แล้วพักไว ้
2.นำไข่เป็ดมาแยกเอาไข่ขาวออกนำไข่แดงมารีดเอา
เยื่อที่อยู่รอบไข่แดงออก ตีไข่แดงให้ขึ้นฟูมากๆ จน
ตั้งยอดแล้วแบ่งไข่ออกเป็น 2 ส่วน
3.นำแป้งทองหยอด 4 ช้อนโต๊ะ ผสมกับไข่ 1 ส่วน
คนเร็วๆผสมให้เข้ากัน
4.นำน้ำเชื่อมที่พักไว้ขึ้นตั้งไฟ รอจนเดือด นำแป้งทองหยอดที่ผสมแล้วมาหยอดโดยใช้นิ้วหัวแม่มือ
นิ้วชี้ นิ้วกลาง ขยุ้มแป้งให้ติดขึ้นมา แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือ
รูดแป้งไปที่ปลายนิ้ว หยอดลงในน้ำเชื่อมทันที หยอด
จนแป้งหมด พอทองหยอดสุกให้ตักขึ้น ใส่ลงแช่ใน
น้ำเชื่อมอีกส่วนที่แบ่งไว้
5.ทำเช่นนี้ให้จนหมดแป้ง ทิ้งไว้ให้เย็น จะเพิ่มความ
หอมด้วยการอบด้วยดอกมะลิ หรือควันเทียนก่อน
รับประทานก็ได้
            อ้างอิง

                http://www.mookfood.com/candy/candy3.asp    

ขนมหวานแบบไทยไทย ขนมหวานอาลัว

                                                                                            ขนมอาลัว
ส่วนผสม อาลัว
1.             แป้งสาลี 1 1/4 ถ้วย
2.             น้ำตาลทราย 2 1/2 ถ้วย
3.             มะพร้าวขูดขาว 600 กรัม
4.             น้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วย
วิธีทำ อาลัว
1.             คั้นมะพร้าวกับน้ำลอยดอกมะลิ ให้ได้กะทิ 2 1/2 ถ้วย
2.             ร่อนแป้งสาลีใส่น้ำตาลทรายขาว เคล้าให้เข้ากัน ใส่น้ำกะทิทีละน้อย ค่อยๆ นวด จนน้ำตาลละลาย แล้วใส่กะทิที่เหลือจนหมด คนให้เข้ากันดี แล้วกรองสิ่งสกปรกออกด้วยผ้าขาวบาง
3.             เทส่วนผสมใส่กระทะทอง ยกขึ้นตั้งไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน กวนเร็วๆ และแรงๆ ไปทางเดียวกัน จนแป้งสุกใสไม่ขุ่น ใส่ผงโกโก้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (หรือถ้าชอบใบเตย ก็ใส่น้ำใบเตยคั้นข้นๆ 1 ช้อนโต๊ะ) กวนให้เข้ากัน ยกขึ้นจากเตาทิ้งให้อ่อน ตักใส่กรวยที่ใส่หัวบีบเรียบร้อยแล้ว หยอดใส่ถาดแบนๆ ยกผึ่งแดดสัก 2 แดด หรือจะใช้เตาอบเปิดไฟอ่อนๆ อบก็ได้
4.             พอขนมแห้ง ให้นำไปอบเทียน โดยเรียงขนมลงในหม้อเคลือบ เรียงให้โปร่งที่สุด จุดเทียนอบขนมทั้ง 2 ด้าน แล้วเป่าให้ดับ ลนตรงกลางเทียนให้อ่อน แล้วกดเทียนให้ติดฝาหม้อ อบไว้ 2-3 ช.ม. แล้วทำแบบเดิมซ้ำอีก 2 ครั้ง ก็จะได้ขนมที่หอมกรุ่น และอร่อย

อ้างอิงhttp://dalestansel.wordpress.com